สัตว์เลี้ยงผู้น่ารัก

สัตว์เลี้ยงผู้น่ารัก

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

ความรู้เกี่ยวกับสุนัข (ผู้น่ารัก)


การอาบน้ำ


โดยปกติควรอาบน้ำให้สุนัข อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ แต่ถ้าสกปรกมากก็อาจจะอาบได้มากกว่านั้น แต่ถ้าอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวหนัง และขนแห้งเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้เกิด ปัญหาโรคผิวหนัง ตามมาได้ ควรใช้แชมพูสำหรับสุนัขในการอาบน้ำ ซึ่งควรจะเลือกตาม ลักษณะขนของสุนัข ไม่ควรใช้สบู่ของคนในการอาบ อาจจะทำให้ผิวหนังแห้งเกินไปได้ ควรเลือกอาบในวันที่อากาศสบาย อาบในที่โล่ง ควรทำให้สุนัข เปียกก่อน แต่อย่าให้น้ำเข้าหู แล้วค่อยใส่แชมพู ถ้ามีส่วน ผสมของยากำจัดเห็บหมัด ให้ฟอกทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออก ถ้ามีการใช้น้ำยากำจัดเห็บหมัด ก็ควรทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ หลังจากนั้นเช็ดตัวสุนัขให้แห้งแล้วทิ้งไว้ให้แห้งเอง ต้องระวังสุนัขจะไปนอน เกลือกกลิ้งบนพื้นอีกจะทำ ให้ตัวเค้าสกปรกอีก

การดูแลสุขภาพภายในช่องปาก

สัตวแพทย์สามารถจัดยาสีฟันที่เหมาะสมสำหรับสุนัขให้ได้ และไม่ควรใช้ยาสีฟันสำหรับคนกับสุนัข
1.ควรตรวจสุขภาพฟันและเพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขไม่มีปัญหาเหงือกอักเสบหรือคราบหินปูนเกาะฟันซึ่งเป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ
2.แปรงฟันให้สุนัขอย่างนิ่มนวล ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม อาจใช้น้ำเกลือเจือจางหรือยาสีฟันสำหรับสุนัข


การเลือกอาหารสำเร็จรูปของสุนัข



- ต้องพิจารณาดูว่าสุนัขของท่านอยู่ในวัยใด เป็นเด็ก เป็นหนุ่ม หรืออยู่ใน วัยชราแล้ว ควรจัดผสมสูตรของอาหารให้เหมาะสมกับวัยของสุนัข การผสมสัดส่วนของสารอาหารโดยผิดสูตรจะมีผลอย่างยิ่งต่อสุนัขที่ยังอยู่ ในวัยเด็กอยู่

- อาหารกระป๋อง หรืออาหารเม็ด ทั้ง 2 อย่างก็มีประโยชน์ต่อสุนัข ของคุณ เท่ากันขี้นอยู่กับว่าสุนัขจะชอบทาน
ประเภทไหน ถ้าเป็นแบบกระป๋องก็ทานง่าย เพราะมีกลิ่นมีน้ำและรสชาติที่อร่อยกว่าแบบเม็ด เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย

- ตรวจ สอบอาหารก่อนซื้อ ต้องดูว่าภาชนะที่บรรจุอาหารสุนัข จะไม่ขาดรั่ว มีแมลงตัวมอดหรือหนอนเจาะไซถุง ถ้าเป็นกระป๋องก็ต้องไม่บุบ ไม่รั่ว ไม่บวม ไม่ขึ้นสนิม ไม่มีกลิ่นเหม็นหึน กลิ่นบูดเน่า

เทคนิคการให้อาหารสุนัขมี 3 วิธี คือ
1. ตักทิ้งไว้ครั้งละมากๆ ให้สุนัขเลือกทานเอง กรณีนี้สุนัขคุณจะทานอาหารได้ทั้งวัน ทั้งคืน เป็นการสะดวกต่อเจ้าของที่มีธุรกิจมาก ไม่ค่อยจะอยู่บ้านเลี้ยงดูมันอาหารประเภทนี้ควรเป็นอาหารประเภทเม็ดจะสะดวกที่สุด เพราะหากให้เป็นอาหารสดเมื่อทิ้งไว้นานๆจะทำให้บูดเน่าเป็นอันตรายต่อ สุนัขข้อเสียของการให้อาหารประเภทนี้ จะทำให้เราไม่รู้ได้เลยว่าสุนัขตัวไหนได้กินมาก หรือกินน้อย หรือตัวไหนไม่ได้ กินเลย เพราะพฤติกรรมของสุนัขก็มักมีการเบ่งอวดความแข็งแกร่ง ถึงขนาดขู่ไม่ให้ทานอาหารเลยก็มี ซึงกรณีนี้เราจะล่วงรู้ได้อีกทีก็ต่อเมื่อสุนัขบางตัว ของท่านซูบผอม หรือไม่สบาย

2. ให้อาหารโดยควบคุมเรื่องเวลา การกำหนดเวลาให้อาหารสุนัข จะทำให้มันรู้เวลาของมันโดยอัตโนมัติ พอถึงเวลาสุนัขของท่าน ก็จะเรียกร้องที่จะขออาหารทาน เช่น เดินตาม หรือเห่าร้อง เอามือตะกายประตู หรือข้างฝา สุนัขบางตัวจะค่อยๆ กิน บางตัวก็จะรีบกินโดยไม่ตรวจสอบดูว่า อาหารในจานเป็นอะไร มีมากน้อยเพียงแค่ไหน ควรจำกัดเวลากินของมันสัก 20-30 นาทีก็จัดเก็บอาหาร เก็บไว้ให้มันกินในมื้อต่อๆ ไปลูกสุนัขที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือนควรให้กินวันละ 3 มื้อ 6-12 เดือน ควรให้กินวันละ 2 มื้อ อายุเกิน 1 ปีขึ้นไปให้กินวันละ 1 ครั้งก็พอ
3. แบ่งอาหารตามสัดส่วนและอัตราการกินของสุนัขแต่ละตัว สุนัขแต่ละตัวมีพฤติกรรมการกินที่แตกต่างกันออกไป บางตัวกินน้อย บางตัวกินมาก บางตัวนอกจากจะกินมากแล้ว ยังกีดกันไม่ให้ตัวอื่นกินในที่ของมันอีก วิธีนี้จะเป็นวิธีการให้อาหารทีดีที่สุด แต่คุณจะต้องมีเวลาที่จะคอยควบคุมการกินของบรรดาเหล่า สุนัขพวกนี้ปัญหาที่ทำให้ผู้เลี้ยงสุนัขประสบอีกอย่างหนึ่งคือ ปัญหาการเปลี่ยน อาหารสุนัข พบว่าสุนัขบางตัวปฏิเสธไม่ยอมรับอาหารใหม่เหล่านั้น วิธีการที่ถูกต้องในการปรับให้สุนัขทานอาหารใหม่ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยสัปดาห์แรกควรนำ อาหารเก่าและใหม่มาคลุกรวมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 เพื่อไม่ให้สุนัขลืมรสชาติอาหารเก่า สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มอัตราส่วนอาหารใหม่เป็น 1 ต่อ 2 พอสัปดาห์ที่ 3 ก็เพิ่ม เป็น 3 ต่อ 4 และสัปดาห์ต่อไปก็ลอง ให้อาหารใหม่ เพียงอย่างเดียว สุนัขของคุณก็จะเคยชินและยอมรับอาหารใหม่ไปโดยปริยายการเปลี่ยนอาหารใหม่ให้สุนัขเป็นเรื่องที่ดี ดังกล่าวมาแล้ว เพราะจะทำให้สุนัขได้รับสารอาหารชนิดอื่นหมุนเวียนครบถ้วน กรณีที่มันไม่ยอมรับ ผู้เลี้ยงต้องทำใจและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนโดยใช้เวลา ซึ่งอาจจะนานกว่า 4 สัปดาห์ ถ้ามันเป็นสุนัขที่ดื้อและไม่ยอมเปลี่ยนอาหารง่าย ๆ

http://pirun.ku.ac.th/~b5043076/page2.html

2 ความคิดเห็น: